"ดีท็อกหลอดเลือด"
หลอดเลือดของเราก็เปรียบเสมือนท่อที่ทำหน้าที่ส่งเลือดไปทั่วร่างกาย เมื่อท่อผ่านการใช้งานนานๆเข้า ก็จะมี"ตะกรัน"เกาะตามผนังท่อหนาขึ้นเรื่อยๆ พอเกาะมากเข้าก็จะเกิดการอุดตัน และทำให้ท่อแตกในที่สุด
สำหรับหลอดเลือดตะกรันก็คือ"ไขมัน"ที่เกาะตามผนังหลอดเลือดนั้นเอง เมื่อไขมันเกาะมากเข้าจนอุดตันทางเดินเลือด 80 - 90% ก็จะแสดงอาการออกมา เป็น"โรคเส้นเลือดตีบ" แต่ก็ขึ้นอยู่ว่าจะไปตีบที่ส่วนไหน?
ถ้าตีบที่หัวใจ ก็จะทำให้หัวใจวาย
ถ้าตีบที่ไต ก็จะทำให้ไตวาย
ถ้าตีบที่สมอง ก็จะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก ตีบ ตัน
ถ้าตีบที่หัวใจ ก็จะทำให้หัวใจวาย
ถ้าตีบที่ไต ก็จะทำให้ไตวาย
ถ้าตีบที่สมอง ก็จะทำให้เส้นเลือดในสมองแตก ตีบ ตัน
ดังนั้นเราจึงต้องคอย "ดีท็อกหลอดเลือด" หรือล้างไขมันในหลอดเลือดอย่างสม่ำเสมอนั้นเอง
ไขมันชนิดที่เกาะผนังหลอดเลือด คือ "ไขมันชนิดเลว (LDL)" ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของตะกรันในหลอดเลือด
แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าถึงเวลาที่ต้องดีท็อกแล้ว?
โดยปกติหลอดเลือดอุดตัน จะไม่แสดงอาการร้ายแรง จะรู้ตัวอีกทีก็เป็นหลอดเลือดตีบเลย และอาจหัวใจวานเฉียบพลัน แต่เรามีวิธีสังเกตง่ายๆ นำหรับคนที่มีไขมันเกาะผนังหลอดเลือดจนอุดตัน
โดยปกติหลอดเลือดอุดตัน จะไม่แสดงอาการร้ายแรง จะรู้ตัวอีกทีก็เป็นหลอดเลือดตีบเลย และอาจหัวใจวานเฉียบพลัน แต่เรามีวิธีสังเกตง่ายๆ นำหรับคนที่มีไขมันเกาะผนังหลอดเลือดจนอุดตัน
1.รู้สึกเมื่อยเนื้อ เมื่อยตัวตามส่วนต่างๆ ปวดเวลาลุกขึ้นยืน หรือขยับ แสดงว่าเริ่มอุดตันแล้วเพราะเลือดไหลไปเลี้ยงส่วนทีาอุดตันไม่เพียงพอ จึงทำให้รู้สึกเมื่อตลอดเวลา
2.อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย จากการใช้ชีวิตประจำวัน เช่นเพลัยตอนบ่ายๆ เป็นประจำ หรือวูบระหว่างขับรถ เพราะเลือดไหลเวียนไม่ดี ร่างกายไม่ทำงานเต็มที่
3.เจ็บหน้าอก หรือปวดหัวเป็นระยะๆ อาจเข้าขั้นอุดตันรุนแรง หากรู้สึกแบบนี้ควรรีบพบแพทย์ทันที ดพราะเป็นอันตรายถึงชีวิตเฉียบพลันได้
กลุ่มเสี่ยงที่มักมีไขมันอุดตันในหลอดเลือดสูง ได้แก่ ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกิน และผู้สูงอายุ เพราะเป็นสองกลุ่มที่ระบบเผาผลาญเสื่อมลงและมีไขมันสะสมมาก
การดีท็อกหลอดเลือดเป็นประจำจะช่วยป้องกันจากโรคหลอดเลือดแดงแข็งตัว โรคไขมันอุดตันในหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเลือดคั่งในสมอง เส้นเลือดแตกโป่งพอง และโรคหลอดเลือดทุกชนิด
การรักษาโรคไขมันอุดตันของแพทย์แผนปัจจุบัน คือการรักษาเฉพาะหน้าซึ่งไม่สามารถรักษาอาการให้หายขาดได้ เช่น การทำบอลลูนกับเส้นเลือดตีบซึ่งก็ช่วยได้เป็นครั้งคราวเพราะเป็นการไปถ่างขยายหลอดเลือดแต่ไขมันก็ยังเกาะอยู่เหมือนเดิม หรือการใช้ยาลดไขมันในน้ำเลือดซึ่งก็ไม่สามารถสลายไขมันที่เกาะผนังหลอดเลือดได้
วิธีการรักษาของแพทย์ คือแนะนำให้ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดไขมันหลอดเลือด และค่อยๆหยุดยา แต่ท่านรู้หรือไม่ว่า การออกกำลังกายจนร่างกายสามารถนำไขมันสะสมมาใช้นั้นยากมาก เพราะฉนั้นหมายความว่าต้องสลายไขมันที่ทานเข้าไปให้หมดเสียก่อน ผู้สูงอายุส่วนใหญ่หลายท่านไม่สามารถทนต่อการออกกำลังกายอย่างหนักเช่นนั้นได้ จำใจต้องรับยาต่อไปจนไตวายในที่สุด
สนใจสั่งซื้อสินค้า หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ติดต่อ
โทร : 092-645-4256 โค้ชเกมส์
Id Line : kp156
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น