“แก้ปวด” ที่ต้นเหตุ ด้วยสารอาหาร
=============================
=============================
แท้จริงแล้วความปวด pain เป็นกระบวนการป้องกันตัวของร่างกายโดยการหลั่งสารเคมี(บางคน เรียกว่าสารคัดหลั่ง( Inflammatory mediators ) ไหลเวียนไปเตือนเซลล์ที่เกี่ยวข้องให้พยายามหลีกเลี่ยง หลีกหนีจากศัตรูแปลกปลอมที่บุกรุกเข้ามาทำร้าย สารเหล่านี้มีหลายชนิดเช่น interleukin , cytokines, leukotrienes เป็นต้น หลังจากเซลล์ที่ถูกบุกรุกได้รับสารคัดหลั่งเหล่านี้ก็จะแสดง “ปฏิกิริยาการ อักเสบ” ขึ้นมาล้อมกรอบเพื่อจำกัดให้การบุกรุกอยู่ภายในขอบเขตที่กำหนด ไม่ขยายตัวออกไปที่อื่นๆ ลักษณะอาการที่สำคัญของ“ปฏิกิริยาการ อักเสบ” ก็คือ บวม, แดง, ร้อน, ปวด
หากร่างกายเรามีปฏิกิริยาการอักเสบอย่างต่อเนื่อง เรื้อรัง ก็กลายเป็น “สนิมเนื้อใน” คือปฏิกิริยาการอักเสบนั่นแหละทำร้ายและทำลายร่างกายเองมากขึ้น ปวดเรื้อรัง ตราบเท่าที่ต้นเหตุแห่งการอักเสบยังไม่ได้ถูกกำจัด ออกไป
ลองทบทวนเปรียบเทียบอีกครั้งก่อนที่จะไปพูดถึงสารอาหารว่าแก้ปวดได้อย่างไร?
1. ยาแก้ปวดกลุ่มสเตียรอยด์ เช่น เพรดนิโซน ทำงานโดยกดทับการสร้างสารคล้ายฮอร์โมนพร้อสต้าแกลนดิน leukotrienes และเอ็นไซม์ COX-2
1. ยาแก้ปวดกลุ่มสเตียรอยด์ เช่น เพรดนิโซน ทำงานโดยกดทับการสร้างสารคล้ายฮอร์โมนพร้อสต้าแกลนดิน leukotrienes และเอ็นไซม์ COX-2
2. ยาแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)เช่นแอสไพริน ไอบูโพรเฟน ทำงานโดยกดทับการสร้างสารprostacyclin และกดทับการทำงานเอ็นไซม์ COX-1และCOX-2
3. พาราเซตตามอลหรือ acetaminophen ออกฤทธิ์ไปกระตุ้นให้สมองหลั่งสาร Opiods (ออกฤทธิ์คล้ายฝิ่น)ออกมาทำให้ไม่รู้สึกปวด
จะเห็นว่ายาที่สังเคราะห์โดยมนุษย์นั้นทำงานโดยออกฤทธิ์กดทับ บังคับ กลไกปกติของร่างกาย โดยไม่ได้แก้ไขต้นเหตุที่แฝงตัวอยู่แต่อย่างใด(underlying causes)
ตอนนี้ลองมาดูสารอาหารที่มีสรรพคุณ ลดการอักเสบ แก้ปวด ดูบ้าง
A) Fish Oil 2,000 mg + Primrose Oil 1,000 mg( หรือ Borage Oil )ทานหลังอาหาร เพราะกรดน้ำดีที่ใช้ย่อยไขมันจะหลั่งออกมาต่อเมื่อมีอาหารผ่านเข้าไปในลำไส้เล็ก Fish Oil ซึ่งเป็นไขมันโอเมก้า-3มีคุณสมบัติตามธรรมชาติที่ร่างกายนำไปใช้สร้างสารคล้ายฮอร์โมนพร้อสต้าแกลนดิน-3 ส่วนกรดไขมันแกมม่าไลโนลิอิคใน Primrose Oil หรือ Borage Oilมีคุณสมบัติสร้างสารคล้ายฮอร์โมนพร้อสต้าแกลนดิน-1
A) Fish Oil 2,000 mg + Primrose Oil 1,000 mg( หรือ Borage Oil )ทานหลังอาหาร เพราะกรดน้ำดีที่ใช้ย่อยไขมันจะหลั่งออกมาต่อเมื่อมีอาหารผ่านเข้าไปในลำไส้เล็ก Fish Oil ซึ่งเป็นไขมันโอเมก้า-3มีคุณสมบัติตามธรรมชาติที่ร่างกายนำไปใช้สร้างสารคล้ายฮอร์โมนพร้อสต้าแกลนดิน-3 ส่วนกรดไขมันแกมม่าไลโนลิอิคใน Primrose Oil หรือ Borage Oilมีคุณสมบัติสร้างสารคล้ายฮอร์โมนพร้อสต้าแกลนดิน-1
สารคล้ายฮอร์โมนทั้งสอง( Pg-1 และ Pg- 3 )โดยธรรมชาติร่างกายใช้ในการปรับสมดุลกับพร้อสต้าแกลนดิน-2 (เพราะ Pg-2ทำให้มีอาการอักเสบ และปวด) สิ่งที่แตกต่างระหว่างยากับอาหารก็คือ สเตียรอยด์ไปกดไม่ให้ร่างกายสร้างพร้อสต้าแกลนดิน และยากลุ่ม NSAIDs เข้าไปกดทับการทำงานเอ็นไซม์ COX-1และCOX-2 ขัดขวางไม่ให้พร้อสต้าแกลนดิน-2ทำงานได้ แต่ Fish Oil + Primrose Oil ( หรือ Borage Oil )เข้าไปสะเทิน ลดบทบาท ปรับสมดุลพร้อสต้าแกลนดิน-2 พร้อมๆกับแก้ไขการอักเสบ ดังนั้นการลดปวดจึงอาจไม่หวือหวาทันอกทันใจ กินปุ๊บ หายปั๊บ เพราะไม่ได้เข้าไปกดทับเอ็นไซม์หรือสารคล้ายฮอร์โมนแบบบีบบังคับ แต่ใช้วิธีรักษาการอักเสบให้ Pg-1 และ Pg-3 แก้ไขการอักเสบที่Pg-2 ก่อให้เกิดขึ้น เมื่อการอักเสบลด ความปวดก็ลด ทุกอย่างลดแบบธรรมชาติพร้อมกับบำรุง ผนังหุ้มเซลล์ เส้นเลือด และปลายประสาทในคราวเดียวกัน
B) ขมิ้น ขมิ้นเหลือง ที่ใช้ปรุงอาหาร เครื่องแกง ทำงานเช่นเดียวกันกับยา NSAIDs ชนิดใหม่ราคาแพงๆเช่นยา Vioxxหรือ Celebrex โดยไปกดการทำงานของทำงานเอ็นไซม์ COX-2แต่ไม่กดการทำงานของ เอ็นไซม์ COX-1 ทั้งยังมีคุณประโยชน์อีกสองด้านคือลดการอักเสบ และต่อต้านอนุมูลอิสระ
C) น้ำผลไม้คั้นสดที่มีน้ำตาลปริมาณต่ำๆโดยเฉพาะน้ำผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหลาย เช่นราสพ์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ แบลคเบอร์รี่ อะซายอีเบอร์รี่ เพราะสารโพลีฟีนอลในน้ำผลไม้คั้นมีสรรพคุณลดการอักเสบได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น