โทษภัยของน้ำอัดลม เป็นบ่อเกิดของหลายๆโรค
ลองรู้จักน้ำอัดลม กันหน่อย
แน่นอนน้ำอัดลมรสชาติอันยอดเยี่ยมบ้านเราไม่ว่า รุ่นเล็ก รุ่นใหญ่หลายคน
มักจะซดน้ำอัดลมเพราะคิดว่าจะทำให้สดชื่นและ ผู้ปกครองหลายๆท่านยังเข้าใจว่า การทานน้ำอัดลมจะไปช่วยเติมน้ำตาลให้เด็กมีพลังงาน ลองกลับมาดูบทความนี้หน่อยไหมค่ะก่อนที่จะให้เด็กทานน้ำอัดลม
ท่านทราบไหมว่า
มีการใช้คุณสมบัติของน้ำอัดลม
1. ตำรวจทางหลวงของอเมริกาจะบรรทุกน้ำอัดลมในประเภทน้ำดำไว้
2 แกลลอน
ในช่องท้ายรถเพื่อเวลามีอุบัติเหตุรถชนกันสามารถเอา น้ำอัดลม ล้างเลือดบนถนน
ได้เกลี้ยงเกลา (อันนี้ไม่แนะนำให้บอกคนที่เป็นอาชญากรนะ
เพราะหลักฐานจะหาย
เกลี้ยงเลย )
2. มีการทดลองเอาเนื้อสเต๊ก ชนิดT-bone steak ใส่ในชามกะละมังที่มีน้ำอัดลม
เต็ม จะพบว่าเนื้อสเต๊ก
จะถูกละลายไปหมดใน 2 วัน (หมายถึงไม่อยู่ในสภาพการ
เป็นเนื้อเลย )
3. รินน้ำอัดลม 1
กระป๋องลงในโถส้วมทิ้งไว้ 1 ชั่วโมงแล้วชักโครกกรดอะซิตริกใน
น้ำอัดลมจะล้าง
คราบสกปรกในโถส้วมได้สะอาด
4. ถ้าต้องการกัดสนิมที่กันชนชุมโครเมียมของรถ
ให้เอาที่ขัดที่ทำด้วย foil ชุบ
น้ำอัดลม ขัดสนิมจะออกหมด
5. ถ้าจะล้างทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ที่มีคราบกรดเกลือเกาะขาวๆ
ให้
เทน้ำอัดลม ฟองจะกัดคราบขาวออกได้หมด
6. ถ้าจุดขวดติดแน่น งัดไม่ออก
เอาผ้าชุบน้ำโค้กหุ้มไว้หลายๆ นาที จะบิดจุดขวด
ออกได้โดยง่าย
7. ถ้าจะปิ้ง
moist ham ให้เทน้ำอัดลม
1 กระป๋อง เทลงในกระทะ ห่อแฮมด้วย
อะลูมิเนียมฟอล์ยแล้วปิ้ง 30
นาที ก่อนแฮมจะสุก แกะฟอล์ยออก ปล่อยให้น้ำเนื้อหยดลงไปผสมกับน้ำอัดลมในกระทะ
ท่านจะได้น้ำเกรวี่สีน้ำตาล
8. การล้างคราบไขมันจากเสื้อผ้า ให้ใช้น้ำน้ำอัดลม
1 กระป๋อง
ผสมกับผงซักฟอกในปริมาณที่จะใส่ในเครื่องซักปล่อยให้ซักด้วยเครื่องตามปกติ
โค้กจะช่วยกำจัดคราบไขมันได้สะอาดหมดจด
9. ท่านสามารถผสมน้ำอัดลม ลงในน้ำล้างกระจกรถยนต์
ฟอสฟอริก แอซิกใน
น้ำอัดลม จะช่วยทำความสะอาดกระจกได้ดี
10. น้ำอัดลมมี pH 2.8
ถ้าตัดเล็บแช่ในน้ำโค้ก 4 วัน จะละลายหมด
11.เวลาขนย้ายน้ำอัดลมเข้มข้นเพื่อส่งตามโรงงานทั่วโลก
ที่รถบรรทุก จะต้อง
ติดป้ายไว้ว่า
“มีวัตถุที่มีกรดกัดกร่อนได้ เป็นอันตราย”
12. บริษัทขายน้ำอัดลม
ใช้น้ำน้ำอัดลมทำความสะอาดเครื่องยนต์ของรบรรทุก มานานประมาณ 20
ปีแล้ว
ส่วนผสมของน้ำอัดลม
ลองอ่านส่วนผสมของน้ำอัดลมจากข้างขวดดูแล้วคุณจะพบว่าหนึ่งในส่วนผสมนั้น
คือ
กรดฟอสฟอริก และ เอธีลีน ไกลคอล อีกเล็กน้อยที่น่าตกใจก็คือเจ้าสาร
เอธีลีนไกลคอล
นี้เป็นที่รู้จักกันดีในวงการน้ำอัดลม ว่าเป็นตัวทำให้น้ำอัดลมเย็นจัด
และช่วยป้องกันการ แข็งตัวที่อุณหภูมิ 0
องศาโดยจะทำให้น้ำอัดลมแข็งตัว
ที่อุณหภูมิต่ำกว่านั้น คือ –4
หรือ –5 องศาสารเคมีตัวนี้เป็นสารพิษอย่างอ่อนๆ ที่จัด
อยู่ใน กลุ่มของสารหนู
เพราะฉะนั้น ถ้าคุณดื่มน้ำอัดลม 4
ลิตร ภายในเวลา
ประมาณ 1
ชม. คุณอาจตายได้ เพียง 4 ลิตร
ลองทายกันดูสิว่า ค่า pH
(ค่าความเป็นกรด-ด่าง) ของน้ำอัดลมมีค่าเท่าใด
คำตอบคือ 3.4! ความเป็นกรดขนาดนี้สามารถทำให้
กระดูกและฟันผุกร่อนได้
(น่าเสียดายที่ว่าร่างกายคนเราจะหยุด หมายถึงหยุดสร้างกระดูกที่อายุ 30
เท่านั้นเอง) เอนไซม์ย่อยอาหารจะทำงานได้ดีที่ระดับอุณหภูมิ 37
องศา แต่อุณหภูมิน้ำอัดลม
แช่เย็นจะต่ำกว่านี้มากบางครั้งอาจต่ำจนเกือบถึง
0 องศา ซึ่งความเย็นขนาดนี้ทำให้
เอนไซม์เจือจาง
และระบบย่อยอาหารผิดปกติ อาหารที่เรากินเข้าไปจะไม่ย่อย
ซ้ำยังหมักหมม
จนเกิดแก๊สและของเสียที่จะกลายเป็นพิษ
สารพิษนี้จะถูกดูดซึมไป
ทั่วร่างกาย ก่อให้เกิดโรคต่างๆ
นานาตามมา แล้วเกิดอะไรขึ้นอีกเมื่อเราดื่มน้ำ “อัดลม”
ลมนั้นก็คือคาร์บอนไดออกไซด์นั่นเอง
น้ำอัดลมไม่ได้ให้สารอาหารใดๆ ที่มีคุณค่าต่อร่างกายเลย ซ้ำยังมีน้ำตาล
กรดคาร์บอนิก และ สารเคมีอื่น เช่น สีผสมอาหาร เป็นต้น บางคนชอบดื่ม
น้ำอัดลมหลังอาหาร
โดยที่ไม่รู้ว่าผลกระทบของมันเป็นอย่างไรบ้าง
ตามปกติแล้ว
ไม่มีใครแนะนำให้คุณดื่มคาร์บอนไดออกไซด์หรอก เมื่อ 2
เดือน
ที่แล้ว ที่มหาวิทยาลัยเดลลี
มีการแข่งขัน “ใครจะดื่มน้ำอัดลมได้มากที่สุด” ผู้ชนะดื่มน้ำ
ไป 8
ขวดรวด แล้วล้มฟุบบนเวทีแข่งขันนั้นเอง เนื่องจากว่ามีปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์
ในเลือดสูงมากเกินไป
อธิการบดีจึงสั่งห้ามขายน้ำอัดลมทุกยี่ห้อในโรงอาหารของ
มหาวิทยาลัย นี่อาจเป็นตัวอย่างของคน ที่ดื่มมากจนถึงขีดสุด แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
ก็คงเป็นอุทธาหรณ์
สำหรับคนที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าน้ำอัดลมจะเป็นอันตรายมากเพียงนี้ มีคนเคยทดลองใส่ฟันลงไปในขวดน้ำอัดลม เชื่อหรือไม่ว่า ภายในเวลาเพียง 10
วัน
ฟันนั้น ถูกกัดกร่อนจนละลายไปทั้งๆ
ที่ฟันและกระดูกเป็นส่วนที่แข็งแรง ที่สุดใน
ร่างกายมนุษย์ ถึงแม้ร่างกาย จะเน่าเปื่อยผุพังไป
ฟันและกระดูกก็ยังคงสภาพอยู่เป็นปีๆ
แล้วคิดสิว่า
ลำไส้และกระเพาะที่อ่อนนุ่มของเราจะถูกกัดกร่อนมากเพียงใดงานวิจัย
ทั่วโลกบอกว่า
น้ำอัดลมเป็นสาเหตุทำให้เด็กติดหวาน และกลายเป็นสาเหตุที่ทำ
ให้เป็นโรคอ้วน พิจารณาเองนะครับ
ว่าจะยังคงที่จะเลือก
ดื่มน้ำอัดลมอีกต่อไปหรือเปล่าครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น