การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
(Erectile Dysfunction,Impotence)
การหย่อนสมรรถภาพทางเพศหมายถึงภาวะที่อวัยวะเพศ
ไม่สามารถแข็งตัวได้อย่างเพียงพอ ที่จะมีเพศสัมพันธ์ บางคนอาจจะไม่แข็งตัว
บางคนอาจจะหลั่งเร็ว บางคนอาจจะมีอาการปวดเวลาหลั่ง
สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการที่เลือดไปเลี้ยงที่อวัยวะเพศไม่พอ
อุบัติการณ์จะพบมากตามอายุกล่าวคือพบได้ร้อยละ 5 ในผู้ที่อายุน้อยกว่า 40 ปี สำหรับผู้ที่อายุมากกว่า 40-70 ปีจะพบได้ร้อยละ 37.5โรคนี้สามารถรักษาได้หากพบปัญหาและรีบรักษา
ผู้ที่มีปัญหานี้ไม่ต้องกังวลเพราะส่วนมากเป็นแค่ชั่วคราว
หากเป็นถาวรแสดงว่าอาจจะมีปัญหาทางด้านจิตใจหรือทางร่างกาย
เมื่ออายุมากขึ้นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทางเพศสัมพันธ์คือ
การแข็งตัวอาจจะต้องใช้เวลานานขึ้น และไม่แข็งเหมือนตอนหนุ่มๆ นอกจากนั้นอาจจะต้องใช้สิ่งเร้ามากกว่าปกติ
เมื่อถึงจุดสุดยอดก็ไม่เหมือนเก่า น้ำอสุจิก็น้อยกว่าเก่า
ภาวะนี้จะไม่ได้หมายถึงภาวะที่ความต้องการทางเพศลดลงหรือภาวะมีปัญหาในการหลั่ง
โครงสร้างของอวัยวะเพศ
|
อวัยวะเพศของผู้ชายประกอบไปด้วยท่อสามท่อเหมือนพองน้ำเรียกว่า corpus carvernosum สองท่อวิ่งขนานกับท่อปัสสาวะ
อยู่ด้านบน และ corpus spongiosum 1 ท่อวิ่งอยู่ด้านล่าง เมื่ออ่อนตัวความยาวอยู่ประมาณ 8.8 ซม.เมื่อได้รับการกระตุ้นเลือดจะเข้าท่อฟองน้ำทำให้มันสามารถขยายได้มากถึง
7 เท่าทำให้อวัยวะเพศใหญ่ขึ้นและแข็งตัวขึ้นและมีความยาว
12.9 ซม.ตราบเท่าที่ยังมีการตื่นเต้นทางเพศอวัยวะเพศก็ยังแข็งตัว
แต่เมื่อมีการหลั่งเลือดออกจากอวัยวะเพศทำให้มีการอ่อนตัว
กลไกการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
การที่อวัยวะเพศจะแข็งตัวได้ต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญดังนี้
· หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศต้องไม่ตีบ
เพราะการที่อวัยวะเพศจะแข็งตัวต้องมีเลือดไปคั่ง
หากมีหลอดเลือดแดงแข็งเลือดก็ไม่สามารถไปเลี้ยงได้อย่างเต็มที่
ภาวะที่ทำให้หลอดเลือดแข็งได้แก่ ผู้ที่สูบบุหรี่ โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง
ความดันโลหิตสูง เป็นต้น
·
ระบบประสาทส่วนปลายซึ่งเป็นระบบที่จะรับความรู้สึกที่เกิดจากการสัมผัสทางร่างกาย
·
ระบบไขสันหลังซึ่งเป็นระบบที่จะเชื่อมโยงการรับความรู้สึกจากประสาทส่วนปลายไปยังประสาทส่วนกลาง
และถ่ายทอดคำสั่งมายังองคชาติ
·
ระบบประสาทส่วนกลางซึ่งประกอบด้วยสิ่งเร้าทั้งหลาย เช่น การเห็น
การได้ยิน การได้กลิ่น รวมทั้งจิตนาการณ์และประสบการณ์ในอดีต
·
จิตก็เป็นเรื่องสำคัญ
ใครที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้
สาเหตุของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศมักจะมีหลายสาเหตุร่วมกัน
หากมีหลายสาเหตุก็จะทำให้มีโอกาศเกิดมากขึ้น ปัจจัยที่เป็นสาเหตุได้แก่
1. อายุ พบว่าอายุมากก็พบโรคนี้ได้เพิ่มขึ้นโดยพบว่าผู้ที่มีอายุ
40-49,50-59,60-70 ปีจะพบ ED ได้ร้อยละ 20.4,46.3,73.4 ตามลำดับ
2. สังคมและเศรษฐกิจพบว่าผู้ที่มีรายได้สูง
มีความรู้ อาชีพที่ดีจะมีปัญหา ED น้อยกว่าคนที่มีรายได้น้อย
3. โรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรัง
โรคประจำตัวต้องเป็นโรคเรื้อรังที่เป็นมานานพอควรเป็นโรคที่มีผลต่อหลอดเลือดแดง
หลอดเลือดดำ กล้ามเนื้อบริเวณอวัยวะเพศสามารถทำให้โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
เช่นโรคเบาหวาน โรคไต โรคพิษสุราเรื้อรัง โรคหลอดเลือดแดงแข็ง atherosclerosis โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศในกลุ่มนี้พบได้ร้อยละ
70 โรคที่สำคัญได้แก่
·
โรคหัวใจและหลอดเลือด
เพราะจะทำให้มีการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศน้อยลง
·
โรคความดันโลหิตสูง
·
โรคเบาหวานมักจะเกิดหลังจากเป็นเบาหวานแล้วประมาณ 10 ปีซึ่งมีสาเหตุสำคัญคือ
เส้นเลือดแข็ง ระบบประสาทอัตโนมัติ
·
โรคต่อมลูกหมากโต
1. การผ่าตัดและอุบัติเหตุที่มีผลต่อเส้นประสาทที่ไปควบคุมการแข็งตัวขององคชาต
เช่นการผ่าตัดในอุ้งเชิงกราน การผ่าตัดต่อมลูกหมาก
การได้รับอุบัติเหตุที่อวัยวะเพศ ประสาทไขสันหลัง กระเพาะปัสสาวะ กระดูกเชิงกราน
อาจจะทำลายเส้นประสาททำให้เกิดกามตายด้าน การผ่าตัดผ่านทางท่อปัสสาวะ
2. จากยาที่รับประทาน ยาหลายชนิดอาจจะทำให้ความต้องการทางเพศลดลง
บางชนิดอาจจะทำให้เกิดกามตายด้าน
3. พฤติกรรมการดำรงชีวิตได้แก่
·
การสูบบุหรี่ คนที่สูบบุหรี่จะมีการเกิด ED สูงกว่าคนไม่สูบโดยพบได้ร้อยละ
45 คนปกติพบได้ร้อยละ 35
·
การดื่มสุรา คนที่ดื่มสุราจะมี RD ร้อยละ 54 ซึ่งคนปกติพบได้ร้อยละ 28
·
การออกกำลังกายผู้ที่ออกกำลังจะพบได้น้อยกว่าผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย
1. ED ที่เกิดจากจิตใจพบได้ประมาณร้อยละ
10-20 ของผู้ป่วยโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ภาวะดังกล่าวอาจจะเกิดจากความเครียด ความวิตกกังวลเกี่ยวกับงาน ครอบครัว
ความกลัวความล้มเหลวทางเพศสัมพันธ์ หรือถูกตำหนิจากคู่ครองทำให้หมดความมั่นใจ
อาการของผู้ป่วย
อาการของผู้ป่วยที่มีปัญหาทางเพศมักจะมีอาการดังนี้
o
ไม่สามารถแข็งตัวได้ตลอดการมีเพศสัมพันธ์
o
อวัยวะเพศไม่แข็งตัวเต็มที่
o
ไม่สามารถแข็งตัวเลย
หากคุณมีอาการดังกล่าวนานเกิน 2 เดือนหรืออาการเกิดซ้ำควรปรึกษาแพทย์
สาเหตุของกามตายด้าน
การแข็งตัวของอวัยวะเพศต้องมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
o
โดยเริ่มต้นจากต้องมีความรู้สึกต้องการทางเพศซึ่งเกิดที่สมองได้รับการกระตุ้นซึ่งอาจจะเกิดจากรูป
กลิ่น เสียง สัมผัส และจากความคิด
o
ส่งผ่านความรู้สึกต้องการทางเพศนั้นไปยังประสาทไขสันหลังและไปกระตุ้นอวัยวะเพศทำให้เลือดไหลเข้าอวัยวะเพศ
o
หลอดเลือดที่อวัยวะเพศต้องมีการขยายตัวเลือดจึงจะเข้าในอวัยวะเพศได้อย่างเต็มที่
ดังนั้นหากมีปัจจัยมากระทบกลไกทั้งสามก็จะทำให้เกิดการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
สาเหตุของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศแบ่งตามกลไกการแข็งตัว
สาเหตุของ ED แบ่งตามกลไกการแข็งตัวได้เป็น 3 ขั้นตอนได้แก่
1. ความล้มเหลวในการกระตุ้นให้เกิดการแข็งตัวมักจะเกิดจากจิตใจ
สมอง ระบบประสาท และการขาดฮอร์โมนเพศชาย
2. ความล้มเหลวที่เลือดแดงจะไหลเข้ามาคั่งในอวัยวะเพศ
ประเภทใจสู่แต่องคชาติไม่ขยายตัวยาว
ใหญ่และแข็งพอมักจะเกิดจากระบบไหลเวียนโลหิตมาเลี้ยงองคชาติไม่พอ
3. ความล้มเหลวในการกักกันเลือดแดงที่ไหลเข้ามาคั่งในองคชาติแล้วค้างอยู่ได้มากพอและนานพอที่จะทำให้
องคชาตแข็งตัวเต็มที่และนานพอที่จะมีเพศสัมพันธุ์ได้สำเร็จ
มักจะเกิดจากผู้สูงอายุมีพังผืดมาแทนหลอดเลือดแดง
สาเหตุของ ED แยกตามระบบต่างๆ
1. ความผิดปกติของเส้นเลือดแดง
เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดสาเหตุสำคัญได้แก่
·
โรคเบาหวาน
·
โรคความดันโลหิตสูง
·
โรคไขมันในเลือดสูง
·
การสูบบุหรี่
·
การฉายแสง
·
คนที่ขี่จักรยานทางไกล ขี่มอเตอร์ไซด์
1. ความผิดปกติของระบบประสาท
แบ่งตามระดับต่างๆได้ดังนี้
·
ระดับสมอง เช่นเนื้องอกสมอง โรคลมชัก อัมพาต Parkinson Alzheimer's
disease
·
ระดับไขสันหลัง สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือการได้รับอุบัติเหตุ
·
ระดับเส้นประสาทและปลายประสาท สาเหตุที่พบบ่อยคือโรคเบาหวาน
นอกจากนั้นยังพบได้ในผู้ที่ผ่าตัดในช่องท้อง ผ่าตัดต่อมลูกหมาก
1. ความผิดปกติเกี่ยวกับหลอดเลือดดำ
มักจะพบในผู้ที่สูงอายุ โรคเบาหวานเนื่องจากมีการแข็งตัวของหลอดเลือดดำ
2. ความผิดปกติในระดับฮอร์โมน
ผู้ที่มีฮอร์โมนเพศชายน้อยกว่าปกติมักจะมีปัญหาเรื่อง ED โดยจะมีความต้องการทางเพศลดลง
แต่จะไม่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
3. ความผิดปกติเกี่ยวกับเรื่องจิตใจซึ่งแบ่งได้เป็นสองประเภท
คือพวกที่มีโรคทางจิตใจอยู่เก่า เช่นโรคซึมเศร้า ผู้ที่เครียด
ส่วนประเภทที่สองคือพวกที่มีปัญหาทางเพศซึ่งอาจจะเกิดจากการหลั่งเร็ว
หรือแข็งตัวไม่เต็มที่แล้วเกิดความกังวลใจเรื้อรัง
ความรุนแรงของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศแบ่งออกได้ 3 ระดับคือ
·
อาการน้อย คือสามารถมีเพศสัมพันธุ์ได้สำเร็จเกือบทุกครั้ง
·
อาการปานกลาง คือมีเพศสัมพันธุ์ได้สำเร็จประมาณครึ่งหนึ่ง
·
อาการรุนแรง คือมีเพศสัมพันธุ์ไม่สำเร็จ
การวินิจฉัย
o
ประวัติการเจ็บป่วย โรคที่เป็นอยู่ ยาที่ใช้เป็นประจำ
ความถี่ของความต้องการทางเพศ ความถี่ของการแข็งตัว ความถี่ของการหลั่ง
ข้อมูลเหล่านี้คุณต้องเตรียมไว้สำหรับตอบคำถามแพทย์
o
การตรวจร่างกาย
ลองจับอวัยวะเพศว่ามีการแข็งตัวหรือไม่หากไม่มีการแข็งตัวอาจจะหมายถึงว่ามีปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาท
มีการร่วงของขนอวัยวะเพศหรือไม่หากมีสาเหตุก็อาจจะเกิดจากต่อมไร้ท่อ
o
การวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการณ์ แพทย์จะเจาะเลือดตรวจการทำงานของตับ
น้ำตาล ไต ไขมันผลเลือดทั่วไป
สำหรับผู้ที่มีความต้องการทางเพศต่ำอาจจะต้องเจาะหาระดับฮอร์โมน testosterone นอกจากนั้นยังต้องสังเกตการแข็งตัวของอวัยวะเพศระหว่างที่หลับหากสามารถแข็งตัวตอนกลางคืน
หรือตอนเช้ามืดแสดงสาเหตุน่าจะเกิดจากจิตใจ
การรักษา
1. การรักษาเบื้องต้นต้องกำจัดหรือลดปัจจัยเสี่ยงให้น้อยที่สุด
คือจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตเช่น รับประทานอาหารที่มีกากอาหาร
อาหารที่มีไขมันต่ำ ลดเกลือ งดสุรา งดบุหรี่
2. Psychotherapy การรักษาทางด้านจิตใจหากปัญหากามตายด้านเกิดจากทางด้านจิตใจแพทย์จะช่วยลดความกังวล
3. การใช้ยาในการรักษา Drug Therapy มีทั้งยารับประทาน
ยาฉีดหรือยาสอด
o
Sildenafil citrate หรือชื่อในทางการค้าว่า Viagra เป็นยาที่ใช้รักษาอาการกามตายด้านตัวแรกโดยต้องรับประทานก่อนมีเพศสัมพันธ์
30 นาที-1 ชั่วโมง
ควรจะรับประทานยาตอนท้องว่าง ยาจะออกฤทธิ์นาน 4-5 ชั่วโมง
จนทำให้บางคนสามารถมีเพศสัมพันธ์ตอนเช้าทั้งที่รับประทานยาตอนก่อนนอน
ยานี้จะได้ผลก็ต่อเมื่อผู้ที่ใช้จะต้องมีความต้องการทางเพศ
ยานี้จะเพิ่มเลือดให้ไปเลี้ยงอวัยวะเพศมากขึ้นขนาดที่ใช้ 50 มิลิกรัมต่อวันไม่ควรใช้มากกว่า
1 ครั้งต่อวัน
สำหรับผู้ที่มีโรคตับ ไตวาย หรืออายุมากกว่า 65 ปีอาจจะเริ่มวันละ 25 มิลิกรัมต่อวัน หากได้ผลไม่ดีและไม่มีโรคแทรกซ้อนจึงเพิ่มขนาดของยา
ข้อห้ามใช้ยานี้ได้แก่ผู้ที่เป็นโรคหัวใจได้รับยา nitrate ไม่ควรใช้ยานี้เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำเป็นลมและเกิดอันตราย
ส่วนการรับประทานยานี้ร่วมกับยาลดความดันชนิดอื่นก็ไม่ส่งผลเสีย
ยาในกลุ่มนี้ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยได้แก่ Levistra
o
ยาในกลุ่ม alpha blocker ได้แก่ yohimbine [Procomil] แต่เดิมเป็นยากระตุ้นความต้องการทางเพศ
แต่ปัจจุบันทราบว่ายานี้ออกฤทธิ์ที่สมอง และขยายหลอดเลือดที่ส่วนปลาย รวมทั้งองคชาตทำให้แข็งตัวได้
ขนาดของยาที่ใช้ 18-30 มิลิกรัมให้รับประทานติดต่อกัน 1-3 เดือน แต่ต้องระวังโรคแทรกซ้อน เช่น ความดันโลหิตสูง ใจสั่น
ปัสสาวะบ่อย
o
Apomorphine ส่วนใหญ่ใช้ 2-4 มิลิกรัม ออกฤทธิ์ใน 10-25 นาทีใช้อมใต้ลิ้น ผลข้างเคียงของยาต่ำมีเพียงคลื่นไส้อาเจียนเท่านั้น
o
ยาฮอร์โมน testosterone เหมาะสำหรับผู้ที่มีระดับฮอร์โมน testosterone ในเลือดต่ำ
o
การฉีดยาเข้าอวัยวะเพศ ยาที่นิยมใช้คือ papaverine
hydrochloride,phentolamine, and alprostadil ยาเหล่านี้จะทำให้หลอดเลือดขยาย
ยานี้จะเริ่มออกฤทธิ์หลังจากฉีดไปแล้ว 5-20 นาทีและออกฤทธิ์ได้นาน 1 ชั่วโมง ผลข้างเคียงของยาอาจจะทำให้เกิดอาการที่เรียกว่าโด่ไม่รู้ล้มจะทำให้เกิดอาการปวด
เกิดอาการปวดบริเวณที่ฉีด เลือดออก
o
การใส่ยาเข้าทางท่อปัสสาวะจะเริ่มออกฤทธิ์ในเวลา 8-10 นาที และอยู่ได้นาน 30-60 นาทีและต้องใช้ยางรัดไวเพื่อให้อวัยวะเพศแข็งตัวนาน
ผลข้างเคียงมีการระคายเคืองต่อท่อปัสสาวะ อัณฑะ อาจจะมีเลือดออกจากท่อปัสสาวะ
1 การใช้เครื่องสุญญากาศ Vacuum Devices โดยการใช้เครื่องสุญญากาศครอบที่อวัยวะเพศ
หลังจากนั้นก็สูบอากาศให้ออกจากท่อทำให้เลือดเข้าไปในอวัยวะเพศจนอวัยวะเพศแข็งตัวได้ดีจึงใช้ยางรัด
|
11. การผ่าตัด Surgery ซึ่งมีการผ่าตัดได้ 3 วิธี
o
การผ่าตัดใส่ท่อ prostheses เข้าไปในอวัยวะเพศ
ท่อนี้จะต่อเข้ากับเครื่องปั้มเพื่อปั้มน้ำเข้าท่อทำให้เกิดการแข็งตัว
|
o
การผ่าตัดแก้เส้นเลือดแดงอุดเนื่องจากได้รับอุบัติเหตุเหมาะสำหรับคนหนุ่ม
o
การผ่าตัดแก้หลอดเลือดดำไม่นิยมทำ
ในการเลือกวิธีรักษาแพทย์จะพิจารณาจากอายุและโรคที่เป็นอยู่
หากคุณมีโรคอะไรต้องบอกแพทย์ก่อนรักษาทุกครั้งเนื่องจากมีบางภาวะที่อาจจะมีอันตรายหากมีเพศสัมพันธ์เช่น
o
เพิ่งเกิดโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือดสมองในระยะเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา
o
มีการเต้นผิดปกติของหัวใจบางชนิด
o
มีอาการเจ็บหน้าอกเนื่องจากหัวใจขาดเลือดซึ่งยังควบคุมไม่ได้
o
ความดันโลหิตที่ยังควบคุมไม่ได้
o
โรคหัวใจวายที่ยังควบคุมไม่ได้
o
โรคลิ้นหัวใจตีบชนิดรุนแรง
การป้องกัน
แม้ว่าอาจจะเกิดการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายได้เป็นครั้งคราว
เราสามารถลดการหย่อนสมรรถภาพทางเพศโดยวิธีดังต่อไปนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น