วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

มาทำความรู้จัก กรดอะมิโน กับ เวย์ โปรตีน ว่าจำเป็นอย่างไรต่อร่างกาย

กรดอะมิโนคืออะไร?
     กรดอะมิโน เป็นโมเลกุลที่เป็นหน่วยย่อยของโปรตีนในร่างกายของเรา เมื่อโมเลกุลเล็กๆเหล่านี้มารวมตัวกันจะเกิดเป็นโปรตีนใหม่(โปรตีนมีหลาย ชนิด) ซึ่งโปรตีนเป็นสารอาหารที่เป็นโครงสร้างหลักของร่างกาย มีอยู่ในเซลล์ทุกเซลล์ โปรตีนจะไปสร้างโมเลกุล เส้นเอ็น อวัยวะ ข้อต่อ เล็บ ผม การเจริญเติบโต และ การซ่อมแซมเซลล์ ไปจนถึงเป็นหลักสำคัญต่อการทำงานต่างๆ ของร่างกาย เช่น การผลิตเซลล์และฮอร์โมน เกล็ดเลือด ภูมิคุ้มกันโรค และช่วยในการทำงานของสารสื่อระบบประสาท ในตอนที่เราทานโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ นม ฯลฯ ร่างกายจะย่อยสลายโปรตีนเหล่านั้นให้เป็นหน่วยเล็กที่สุดเรียกว่า "กรดอะมิโน" และจะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดไปใช้ประโยชน์ในเซลล์ต่างๆ ในกรณีมีกรดอะมิโนมากเกินไปกรดอะมิโนส่วนเกินจะถูกขับออกจากร่างกายทาง เหงื่อและปัสสาวะ ร่างกายไม่สามารถเก็บสะสมกรดอะมิโนไว้ใช้ต่อไปได้เหมือนสารอาหารอื่น เช่น คารโบไอเดรต

กรดอะมิโนแบ่งกลุ่มได้อย่างไรและมีกี่ชนิด

     กรดอะมิโน แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ กรดอะมิโนจำเป็น และ กรดอะมิโนไม่จำเป็น โดยรวมมีอยู่ด้วยกัน 20 ชนิด



1. กรดอะมิโนจำเป็น

     กรดอะมิโนจำเป็นคือกรดอะมิโนที่ร่างกายไม่สามารถผลิตมาใช้ได้เองต้องได้รับ จากอาหารที่เราทานเข้าไป มีอยู่ 9 ชนิด ซึ่งในแต่ละชนิดจะมีประโยชน์กับร่างกายต่างกันออกไปประกอบไปด้วย

ฮิสติดีน (HISTIDINE)

     พบมากในเม็ดเลือดแดง ช่วยบำบัดโรค ไขข้ออักเสบ ภูมิแพ้ กระเพราะอักเสบ โลหิตจาง จำเป็นต่อการเจริญเติบโต และ ซ่อมแซม เนื้อเยื้อ สำคัญต่อการดูแลรักษาเยื่อไมอีลิน เพื่อ ป้องกัน เซลประสาท ช่วยในการผลิตของเม็ดเลือดแดง และ เม็ดเลือดขาว ช่วยเหลือป้องกันร่างกายจากการแผ่รังสี ช่วยเรื่องการกำจัดสารหนักออกจากร่างกาย บางการวิจัยรายงานว่าช่วยเรื่องอารมณ์ทางเพศด้วย

ไอโซลิวซีน (ISOLEUCINE)

     มีส่วนช่วยสำหรับรูปร่างของเม็ดเลือดแดง ควบคุมน้ำตาลในเลือด ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื้อกล้ามเนื้อ ผิวหนัง และ กระดูก

ลิวซีน (LEUCINE)

     เมื่อลิวซีนทำงานคู่กับ ไอโซลิวซีน และ วาลีน ช่วย รักษาเนื้อเยื้อกล้ามเนื้อ ผิวหนัง และ กระดูก ลดนำตาลในเลือด ช่วยในด้านการเพิ่มการผลิตโฮร์โมนการเจริญเติบโต

ไลย์ซีน (LYSINE)

     ช่วยระบบการดูดซึม แคลเซียม รักษาสมดุลของไนโตรเจน ช่วยผลิตแอนตี้บอดี้ ลดไตรกลีเซอไรด์

เมธิโอนีน (METHIONINE)

     ต่อต้านอนุมูลอิสละ และ เป็นแหล่งของซัลเฟอร์เพื่อช่วยป้องกันความผิดปกติของ ผม ผิวหนังและเล็บ ช่วยลดไขมัน ช่วยป้องกันไขมันสะสมในตับและในเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจ ซึ่งทำช่วยขจัดสารพิษ ช่วยลดความเสียหายของกล้ามเนื้อ ช่วยส่งเสริมการขับฮอร์โมนเอสโตรเจน ลดฮิสตามีน ช่วยเหลืออาการป่วยด้านจิตเพศ

เฟนิลอะลานีน (PHENYLALANINE)

     สมองจะใช้ในการสร้างนอเอพิเนฟริน เพื่อใช้ในการส่งสัญญานระห่างเซลประสาทในสมอง ช่วยกระตุ้นความตื่นตัวให้รู้สึกมีพละกำลัง ลดความเจ็บปวด ช่วยในการเรียนรู้ การจดจำ ใช้ในการรักษา ภาวะข้อต่ออักเสบ โรคซึมเศร้า การปวดประจำเดือน ไมเกรน ความอ้วน โรคพาร์กินสัน

ธรีโอนิน (THREONINE)

     ช่วยรักษาสมดุลในร่างกาย เป็นสิ่งสำคัญสำหรับโครงสร้างรูปร่างของโคลลาเจน อีลาสติน เมื่อรวมตัวกับ กรดแอสพาร์ติก และ เมธิโอนีนจะช่วยให้ไชะลอการสร้างไขมันในตับ ช่วยเหลือระบบเมตาโบลิซึม และ การย่อยการดูดซึม

ทริปโตเฟน (TRYPTOPHAN)

     ช่วยให้ผ่อนคลาย ช่วยลดอาการนอนไม่หลับ ลดความวิตกกังวล โรคซึมเศร้า และ ทำให้อารมณ์คงที่ ช่วยในการรักษาอาการ ปวดหัว ไมเกรน ช่วยระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานถูกต้อง ช่วยให้ควบคุมน้ำหนักโดยการลดความอยากเพิ่มโฮร์โมนการเจริญเติบโต ช่วยควบคุมอาการไฮเปอร์แอ้คทีฟ ในเด็ก

วาลีน (VALINE)

     ช่วยในการเผาผลาญพลังงานในกล้ามเนื้อ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ดูแลรักษาความสมดุลของไนโตรเจนในร่างกาย ใช้เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งด้านจิตใจ ช่วยสงบสติอารมณ์

2. กรดอะมิโนไม่จำเป็น

     กรดอะมิโนไม่จำเป็น ที่เรียกอย่างนี้เพราะร่างกายสามารถผลิตได้เอง ในผู้ใหญ่ปกติไม่ค่อยพบว่ามีใครขาดแคลนกรดอะมิโนเหล่านี้ นอกจากเด็กทารกและคนป่วย ซึ่งอาจผลิตกรดอะมิโนได้ไม่เพียงพอ กรดอะมิโน มีอยู่ 11 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ 
อะลานีน (Alanine) 
อาร์จินีน (Arginine) 
แอสพาราจีน (Asparagine) 
กรดแอสพาติก (Aspartic acid) 
ซีสตีน (Cysteine) 
กรดกลูตามิก (Glutamic acid) 
กลูตามีน (Glutamine) 
ไกลซีน (Glycine) 
โปรลีน (Proline) 
ซีรีน (Serine) 
ไทโรซีน (Tyrosine) 
     แต่ละชนิดต่างก็มีคุณค่าเฉพาะตัวต่อร่างกายแตกต่างกันออกไปแต่ใน ที่นี้จะไม่ขอกล่าวถึงเพราะร่างกายของเราสามารถสร้างได้เอง ที่จะกล่าวถึงและให้ความสำคัญในครั้งนี้คือ กรดอะมิโนจำเป็นเนื่องจากเราจะได้รับจากการทานอาหารเท่านั้นครับ

ค่าความต้องการกรดอะมิโนจำเป็นในแต่ละวัน

     ตามประกาศจาก "World Health Organization" โดยความร่วมมือทางการวิจัยของ "Food and Agriculture Organization of the Uniteds Nations" ได้ระบุไว้ว่า
ค่าความต้องการกรดอะมิโนจำเป็นในผู้ใหญ่ ต่อน้ำหนักตัว 1กิโลกรัม ใน 1วัน ดังนี้
(เป็นการคำนวณค่าโดยประมาณบนสมมติฐานของค่าสัมประสิทธิ์ของการเปลี่ยนแปลงในระดับที่ปลอดภัยของการนำเข้าสำหรับกรดอะมิโนจำเป็น)

ชนิดกรดอะมิโน ค่าความต้องการเป็นมิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว : 1 kg : 1 วัน

Histidine 10 mg
Isoleucine 20 mg
Leucine 39 mg
Lysine 30 mg
Methionine + cysteine 15 mg
Methionine 10 mg
Cysteine 4 mg
Phenylalanine + tyrosine 25 mg
Threonine 15 mg
Tryptophan 4 mg
Valine 26 mg
รวมกรดอะมิโนจำเป็น 184 mg

     อีกค่าที่ต้องกล่าวถึงคือค่ากรดอะมิโนจำเป็นที่มีอยู่ใน 1 กรัม โปรตีน (ที่มีความต้องการไนโตรเจนโดยเฉลี่ย 105 mg ไนโตรเจนมิลลิกรัมต่อ 1 kg ต่อวัน = 0.66 กรัมโปรตีนต่อ 1 kg ต่อวัน)....ในส่วนเรืองไนโตรเจนขออภัยที่ผมไม่สามารถอธิบายเป็นภาษาไทยได้ ถนัดนัก ในโอกาสนี้ยังไม่ต้องทราบก็ได้ครับเราเรียนรุ้เรื่องกรดอะมิโนกันก่อนครับ)


ชนิดกรดอะมิโน ค่ากรดอะมิโนจำเป็นแสดงเป็นมิลลิกรัม ต่อน้ำหนักโปรตีน : 1กรัม

Histidine 15 mg
Isoleucine 30 mg
Leucine 59 mg
Lysine 45 mg
Methionine + cysteine 22 mg
Methionine 16 mg
Cysteine 6 mg
Phenylalanine + tyrosine 38 mg
Threonine 23 mg
Tryptophan 6 mg
Valine 39 mg
รวมกรดอะมิโนจำเป็น 277 mg

     จะเห็นได้ว่าร่างกายของเราต้องการกรดอะมิโนจำเป็น ประมาณ 184 mg ต่อน้ำหนักตัว 1 kg ต่อวัน แต่ใน 1 กรัมของโปรตีนจะมีกรดอะมิโนจำเป็นถึง 277 mg แสดงให้เห็นว่า ถ้าเราทานอาหารโปรตีนเพียง 0.66 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 kg ต่อวัน เราจะได้กรดอะมิโนจำเป็นที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ในกรณีที่เราต้องการทราบ ค่าความต้องการกรดอะมิโนจำเป็นต่อน้ำหนักตัวที่เป็น ปอนด์ จะเทียบได้ดังนี้คือ ในผู้ใหญ่ต้องการกรดอะมิโนจำเป็นประมาณ 84 mgต่อน้ำหนักตัว 1 ปอนด์ ต่อวัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในคนเพาะกาย เล่นกล้าม ต้องการโปรตีนประมาณ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 ปอนด์ต่อวัน จากที่เห็นนี้เท่ากับว่า เราจะได้รับกรดอะมิโนจำเป็นมากถึง 610 mg ต่อน้ำหนักตัว 1 kg ต่อวัน เห็นแบบนี้แล้วเราคงไม่ต้องกลัวอีกต่อไปว่าเราจะขาดกรดอะมิโนจำเป็น ถ้าเราทานอาหารโปรตีนได้พอดีกับความต้องการของร่างกาย


แหล่งโปรตีนที่ให้กรดอะมิโนจำเป็น

     ถ้าพูดถึงเรื่องแหล่งโปรตีนที่ให้กรดอะมิโนจำเป็นนี้ จะแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มดังนี้

โปรตีนสมบูรณ์ คืออาหารโปรตีนที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นครบทุก 9 ชนิด มักพบในเนื้อสัตว์เช่น ไก่ เนื้อปลา ไข่ ชีส นม อาหารโปรตีนกลุ่มนี้ส่วนช่วยในการสร้างเสริมกล้ามเนื้อ มวลกระดูก ฯลฯ


โปรตีนเกือบสมบูรณ์ คืออาหารโปรตีนที่มีกรดอะมิโนจำเป็นเกือบครบทุกชนิด ขาดเพียง 1-2 ตัวเท่านั้น ซึ่งมักพนในโปรตีนจากพืชตระกูลถั่ว


     ดังนั้นเราจึงควรเลือกทานอาหารเพื่อให้ได้กรดอะมิโนตามที่ร่างกายต้องการ โดยเน้นอาหารพวกเนื้อสัตว์ และพืชตระกูลถั่ว เนื่องจากอาหารแต่ละอย่างมีกรดอะมิโนที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นเราจึงควรทานอาหารให้หลากหลาย ไม่จำกัดเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่งเสมอไป เพื่อให้ได้คุณค่าโปรตีนที่ครบถ้วน


     สรุปว่าถ้าเราทานอาหารโปรตีนทีหลากหลายและเพียงพอเราจะได้รับกรดอะมิโนจำ เป็นได้อย่างเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะนักบริโภคโปรตีน อย่างคนเล่นกล้ามแบบพวกเราแล้วยิ่งไม่ต้องกลัวที่จะขาดแคลน นอกจากว่าใครที่ต้องการใช้กรดอะมิโนจำเป็นในการเป็นอาหารเสริม ขอให้เลือกใช้เป็นตัวๆไปตามประโยชน์ที่ระบุไว้ข้างต้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว อย่างที่ได้บอกไว้คือถ้า เราทานอาหารโปรตีนเพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นใดๆเลยที่จะต้องเสริมกรดอะมิโนจำเป็นใดๆอีก เพราะถือว่าเป็นการทานเสริมที่ทับซ้อนกันและสิ้นเปลือง เพราะในที่สุดแล้วกรดอะมิโนจำเป็นส่วนที่เกินความต้องการจะถูกขับออกจากร่าง กายทางเหงื่อและปัสสาวะโดยที่ร่างกายไม่สามารถเก็บสะสมกรดอะมิโนไว้ใช้ต่อไป ได้อีกด้วย ใครที่ต้องการทานเสริมก็ลองชั่งใจดูถึงความจำเป็นนะครับ คิดให้ดีๆเงินทองหายากเอาไปใช้ประโยชนอย่างอื่นได้อีกหลายอย่างเลยครับ


เวย์ โปรตีนได้มาจากไหน?




     เวย์ โปรตีน ได้มาจากของเหลวที่เรียกว่าหางนมที่เหลือจากอุตสาหกรรมการผลิต ชีส (เนยแข็ง) ซึ่งในของเหลวนี้ประกอบไปด้วยน้ำ เวย์ โปรตีน แลคโตส ไขมัน วิตามินและเกลือแร่ ในหางนมนี้จะมีส่วนที่เป็นน้ำ 90% เวย์ โปรตีน 0.8% แลกโตส 7% โดยประมาณ ถ้าสกัด เวย์ จากหางนมในชั้นแรกนี้จะได้ "ซิมเปิ้ล เวย์ พาวเดอร์" ส่วนใหญ่ เวย์ที่ได้จากขั้นแรกนี้จะมีความเข้มข้นแค่เพียง ประมาณ 10% หรือสูงสุดไม่เกิน 30% ในเนื้อเวย์ส่วนใหญ่ยังคงเป็นแลคโตส และที่เหลือส่วนอื่นๆ เป็นไขมัน เกลือแร่ นำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหาร บางอย่างได้ด้วย แต่ยังไม่เหมาะสมกันการนำมาเป็นอาหารเสริมสำหรับคนเรานะครับ ต่อมามีการนำมาสกัดในขั้นตอนต่อจากที่กล่าวมาจึงได้กลายมาเป็น อาหารเสริมโปรตีน ชนิด "เวย์ โปรตีน ไอโซเลท" และ "เวย์ โปรตีน คอนเซนเตรท"

ทาน เวย์ โปรตีน แล้วได้อะไร?

     สิ่งสำคัญใน"เวย์ โปรตีน ไอโซเลท" คือ BCAA ซึ่งจะมีอยู่ประมาณ 25% และนับว่าเป็นอาหารเสริมโปรตีนที่ให้ BCAA มากกว่าอาหารเสริมโปรตีนใทุกชนิด ทีนี่มาดูกันว่า ทำไมถึงต้องให้ความสำคัญกับ BCAA



     เพราะเจ้าBCAA ตัวนี้เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายของเราจำเป็นจะต้องใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ โปรตีน ให้กับเซลล์กล้ามเนื้อ ประกอบด้วยกรคอะมิโน 3 ตัวคือ ลูซีน ไอโซลูซีน วาลีน โดยที่ BCAA จะเป็นตัวไปกระตุ้นให้มีการหลั่งฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต จากต่อมใต้สมอง ซึ่งจะช่วยทำให้ร่างกายสามารถสร้างกล้ามเนื้อ ได้รวดเร็วขึ้น เพระฮอร์โมนการเจริญเติบโต จะไปกระตุ้นกระบวนการสังเคราะห์โปรตีนของเซลล์กล้ามเนื้อที่มีการใช้งานหรือ ถูกทำลาย ทำให้กล้ามเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้นโดยใช้กรดอะมิโน ในการสังเคราะห์โปรตีน ทั้งกรดอะมิโนในส่วนที่เซลล์กล้ามเนื้อได้รับมาโดยตรงจากอาหารปกติ ชนิดต่างๆ และในส่วนที่เซลล์กล้ามเนื้อได้รับมาจากการย่อยสลายโปรตีนชนิดต่างๆด้วย นอกจากนี้ BCAA จะช่วยซ่อมแซมเซลล์กล้ามเนื้อที่สึกหรอจากการออกกำลังกาย ทำให้ฟื้นตัวได้เร็ว ช่วยลดจำนวน "โปรตีน แคทาบอลิซึม" (โปรตีนที่จะถูกสลายตัวในตอนการออกกำลังกายที่หนักมากๆ) ซึ่งจะช่วยทำให้เซลล์กล้ามเนื้อ ไม่เล็กลง หรือที่เรียกว่ากล้ามฝ่อ ร่างกายสามารถที่จะใช้ BCAA จากกล้ามเนื้อได้โดยตรงถึง 70% โดยไม่ต้องผ่านตับ ดังนั้น BCAA จึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องการทำงานของตับด้วยนะครับ สรุปได้ว่า สิ่งที่เราจะได้จาก เวย์ โปรตีน นี้คือ กรดอะมิโน และ BCAA ซึ่งถือว่าจำเป็นสำหรับคนเพาะกายนะครับ จากข้างบนนี้กล่าวถึง "เวย์ โปรตีน ไอโซเลท" แต่ถ้าเป็นใน "เวย์ โปรตีน คอนเซนเตรท" จะมีปริมาณ กรดอะมิโนและเปอร์เซนต์ของ BCAA ต่ำลงไปอีก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็สามารถที่จะทาน BCAA โดยตรงเพิ่มได้อีก "เวย์ โปรตีน คอนเซนเตรท" นั้นราคาถูกกว่าแบบ "เวย์ โปรตีน ไอโซเลท" มากทีเดียว แต่เราอาจต้องทานเสริมอย่างอื่นเพิ่มอีก ในขณะที่ "เวย์ โปรตีน ไอโซเลท" มีราคาสูงกว่าแต่ทานตัวเดียวโดยที่ไม่ต้องเสริม BCAA ก็น่าจะพอเพียงความต้องการร่างกาย ใครที่จะหามาทานลองคิดดูครับว่า เวย์แบบไหนเหมาะกับตัวคุณ

เวย์ โปรตีน ช่วยสร้างกล้ามเนื้ออย่างไร?

     เพราะกรดอะมิโนหลายชนิดใน เวย์ โปรตีน จะช่วยในการสร้างเซลล์กล้ามเนื้อและยับยั้งการทำลายเซลล์กล้ามเนื้อ ซ้ำยังเสริมความแข็งแรงให้แก่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เพราะจะช่วยเพิ่มการผลิตสาร "กลูตาไธโอน" ซึ่งสารตัวนี้เป็นสาร แอนตี้ออกซิแด้นท์ ของร่างกายเรา ครับ ใน เวย์ โปรตีน จะให้ BCAA และกลูตามีน ซึ่งจะไปกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต ทำให้ร่างกายสามารถสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มขึ้น กลูตามีน ยังจะช่วยให้กล้ามเนื้อสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และช่วยในการทำลายกรดแลคติค ที่เกิดขึ้นในขณะออกกำลังกายเพื่อลดอาการอ่อนล้าของกล้ามเนื้อได้อีกด้วย ครับ

เกร็ดความรู้ เล็กๆน้อยๆของ เวย์ โปรตีน

     เวย์ โปรตีน จะย่อยได้ง่ายและถูกดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือดได้อย่างรวดเร็ว ในช่วงที่เกิดความเครียด รวมทั้งในระหว่างการออกกำลังกาย จะพบว่าระดับของกลูตาไธโอนจะลดต่ำลง
     เวย์ โปรตีน จะสามารถช่วยรักษาระดับของกลูตาไธโอน เอาไว้ให้คงที่ เพื่อให้สามารถรักษาระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกล้ามเนื้อ
     เวย์ โปรตีน ช่วยลดน้ำหนักได้ โดยการไปเพิ่มฮอร์โมนที่ไปยับยั้งความอยากอาหาร ที่ชื่อ โคเลซิสโตคินิน ที่อยู่ในทางเดินอาหาร (อันนี้ผลการวิจัย แต่จะจริงหรือไม่ยังไม่ทราบเป็นที่แน่นอน)

เปรียบเทียบการทาน เวย์ โปรตีน กับ กรดอะมิโนแบบเม็ด

     เคยเห็นคำถามที่ว่าจะทานกรดอะมิโนเม็ด หรือทาน เวย์ โปรตีนดีกว่ากันในเรื่องนีขออธิบายว่า กรดอะมิโนเม็ดเป็นกรดอะมิโนที่จัดอยู่ใน กรดอะมิโนเดี่ยว ส่วนเวย์ โปรตีน จัดอยู่ใน โปรตีน เปปไทด์สั้น มีรายงานการวิจัยว่า ร่างกายของเราจะดูดซึมกรดอะมิโนเดี่ยว ได้ไม่ดีเท่ากับโปรตีน เปปไทด์สั้น หมายถึงโปรตีน ซึ่งมีโปรตีนที่ถูกย่อยให้อยู่ในรูป เปปไทด์ จะถูกดูดซึมไปใช้ได้ดีที่สุด ยิ่งกว่านั้น เวย์ โปรตีน มีสัดส่วนของกรดอะมิโนที่เหมาะสมมากอยู่แล้ว ร่างกายเราสามารถนำไปย่อยสลายเป็นกรดอะมิโน แล้วนำไปสร้างเป็นโปรตีนใหม่ให้เซลล์กล้ามเนื้อได้ อย่างดีมีประสิทธิภาพ แต่ข้อดีของกรดอะมิโนเม็ดคือ การทานที่คล่องตัว พกพาง่าย เรื่องอื่นๆก็ตามเหตุผลข้างต้นที่กล่าวมานะครับ

สารอาหารใน เวย์ โปรตีน


"เวย์ โปรตีน ไอโซเลท"

โปรตีน 90-97%
คาร์โบไฮเดรท น้อยกว่า 1%
ไขมัน น้อยกว่า 1%
BCAA 26%
การดูดซึม ประมาณ 30 นาที

"เวย์ โปรตีน คอนเซนเตรท"
โปรตีน 70-89%
คาร์โบไฮเดรท มากกว่า 1%
ไขมัน 3-8%
BCAA น้อยกว่า 26%
การดูดซึม ประมาณ 30 นาที

     ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นภาพรวมของ เวย์โปรตีน สิ่ง สำคัญที่อยากจะบอกคือ เวย์ โปรตีน ไม่สามารถที่จะมาเป็นอาหารทดแทนในมื้ออาหารหลักได้ ควรใช้เป็นอาหารเสริมในกรณีที่ร่างกายได้รับโปรตีนจากอาหารหลักไม่เพียงพอ โดย ดูได้จากเกณฑร์วัดความต้องการต้องการโปรตีนของร่างกายว่าจะต้องได้รับ 1-1.5 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 ปอนด์ (ในปัจจุบันมีการวิจัยใหม่ ว่าความต้องการโปรตีนต่อน้ำหนักตัว มีการลดสัดส่วนลง) ถ้าลองคำนวนดูแล้วเราได้รับโปรตีนจากอาหารหลักไม่เพียงพอ เวย์ โปรตีน ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีได้อีกทางครับ แต่ถ้าร่างกายได้รับโปรตีนจากอาหารหลักเพียงพอแล้ว ก็สามารถทานเสริมได้ไม่มีผลเสียอะไรครับ




By : โค้ชเกมส์
Mobile : 092-645-4256
Line ID : kp156



วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2564

ระวัง ยาที่ทำให้ "นกเขาไม่ขัน"

ระวัง...ยาที่ทำให้ "นกเขาไม่ขัน"

รายการยาข้างล่างอาจจะทำให้เกิดกามตายด้าน บางชนิดทำให้ความสนใจทางเพศลดลง แต่โปรดจำไว้ว่ามีเพียงส่วนน้อยที่มีผลข้างเคียงจากยา อย่าหยุดยาเองควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนหยุดยาทุกครั้ง หากคุณมีปัญหาเรื่องเพศสัมพันธ์ คุณต้องแจ้งแพทย์ทุกครั้งแม้ว่ายานั้นจะไม่มีในตารางข้างล่าง

ชื่อยา
ใช้รักษาโรค
ผลข้างเคียง
 Nifedipine
 ยาลดความดันโลหิต
 กามตายด้าน
 Doxepin
 ความต้องการทางเพศลดลงและมีปัญหาในการหลั่ง
 Spironolactone 
 ยาขับปัสสาวะชนิดหนึ่ง
 ความต้องการทางเพศลดลงและมีปัญหาในการแข็งตัว
 Methyldopa
 ยาลดความดันโลหิตสูง
 มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัว(พบน้อย)
 Ramipril
 ยาลดความดันโลหิตสูง  ป้องกันโรคไตจากโรค  เบาหวาน
 มีการเปลี่ยนแปลงความต้องการทาง  เพศ 
 มีปัญหาเกี่ยวกับการถึงจุดสุดยอดและ  การหลั่ง อวัยวะเพศไม่แข็งตัว(20%)
 Clomipramine
 ยารักษา
 อวัยวะเพศไม่แข็งตัว
 Naproxen
 ยาแก้ปวดลดการอักเสบ  ของข้อ
 อวัยวะเพศไม่แข็งตัว(พบน้อย)
 Hydralazine
 ยาลดความดันโลหิต
 อวัยวะเพศไม่แข็งตัว
 Trihexyphenidyl
 ยารักษาโรค Parkinson
 อวัยวะเพศไม่แข็งตัว
 Amoxapine
 อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ความต้องการ  ทางเพศลดลง
 Lorazepam
 ยาคลายเครียด
 ความต้องการทางเพศลดลง
 Nortriptyline
 ยารักษาโรคซึมเศร้า
 อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ความต้องการ  ทางเพศลดลง
 Niadinezat
 อวัยวะเพศไม่แข็งตัว
 Dicyclorriine
 อวัยวะเพศไม่แข็งตัว
 Timolol
 อวัยวะเพศไม่แข็งตัว(พบน้อย) ความ  ต้องการทางเพศลดลง
 Bumetanide
 หลั่งเร็ว
 Buspirone
 ผลข้างเคียงไม่มาก พบว่ามีการ  เปลี่ยนแปลงความต้องการทางเพศ  อวัยวะเพศไม่แข็งตัว
 Verapamil
 ยาลดความดันโลหิต
 อวัยวะเพศไม่แข็งตัว (พบน้อย)
 Captopril
 ยาลดความดันโลหิต
 อวัยวะเพศไม่แข็งตัว (พบน้อย)
 Nicardipine
 ยาลดความดันโลหิต
 อวัยวะเพศไม่แข็งตัว (พบน้อย)
 Diltiazem
 ยาลดความดันโลหิต
 อวัยวะเพศไม่แข็งตัว(พบน้อย) ความ  ต้องการทางเพศลดลง
 Doxazosin
 ยาลดความดันโลหิต
 sexual difficulty
 Clonidine
 ยาลดความดันโลหิต
 อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ความต้องการ  ทางเพศลดลง หลั่งช้า
 Benztropine

 อวัยวะเพศไม่แข็งตัว





การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction,Impotence)

การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
(Erectile Dysfunction,Impotence)
การหย่อนสมรรถภาพทางเพศหมายถึงภาวะที่อวัยวะเพศ ไม่สามารถแข็งตัวได้อย่างเพียงพอ ที่จะมีเพศสัมพันธ์ บางคนอาจจะไม่แข็งตัว บางคนอาจจะหลั่งเร็ว บางคนอาจจะมีอาการปวดเวลาหลั่ง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการที่เลือดไปเลี้ยงที่อวัยวะเพศไม่พอ อุบัติการณ์จะพบมากตามอายุกล่าวคือพบได้ร้อยละ 5 ในผู้ที่อายุน้อยกว่า 40 ปี สำหรับผู้ที่อายุมากกว่า 40-70 ปีจะพบได้ร้อยละ 37.5โรคนี้สามารถรักษาได้หากพบปัญหาและรีบรักษา ผู้ที่มีปัญหานี้ไม่ต้องกังวลเพราะส่วนมากเป็นแค่ชั่วคราว หากเป็นถาวรแสดงว่าอาจจะมีปัญหาทางด้านจิตใจหรือทางร่างกาย เมื่ออายุมากขึ้นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทางเพศสัมพันธ์คือ การแข็งตัวอาจจะต้องใช้เวลานานขึ้น และไม่แข็งเหมือนตอนหนุ่มๆ นอกจากนั้นอาจจะต้องใช้สิ่งเร้ามากกว่าปกติ เมื่อถึงจุดสุดยอดก็ไม่เหมือนเก่า น้ำอสุจิก็น้อยกว่าเก่า ภาวะนี้จะไม่ได้หมายถึงภาวะที่ความต้องการทางเพศลดลงหรือภาวะมีปัญหาในการหลั่ง

โครงสร้างของอวัยวะเพศ

อวัยวะเพศของผู้ชายประกอบไปด้วยท่อสามท่อเหมือนพองน้ำเรียกว่า corpus carvernosum สองท่อวิ่งขนานกับท่อปัสสาวะ อยู่ด้านบน และ corpus spongiosum 1 ท่อวิ่งอยู่ด้านล่าง เมื่ออ่อนตัวความยาวอยู่ประมาณ 8.8 ซม.เมื่อได้รับการกระตุ้นเลือดจะเข้าท่อฟองน้ำทำให้มันสามารถขยายได้มากถึง 7 เท่าทำให้อวัยวะเพศใหญ่ขึ้นและแข็งตัวขึ้นและมีความยาว 12.9 ซม.ตราบเท่าที่ยังมีการตื่นเต้นทางเพศอวัยวะเพศก็ยังแข็งตัว แต่เมื่อมีการหลั่งเลือดออกจากอวัยวะเพศทำให้มีการอ่อนตัว

กลไกการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
การที่อวัยวะเพศจะแข็งตัวได้ต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญดังนี้
·       หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศต้องไม่ตีบ เพราะการที่อวัยวะเพศจะแข็งตัวต้องมีเลือดไปคั่ง หากมีหลอดเลือดแดงแข็งเลือดก็ไม่สามารถไปเลี้ยงได้อย่างเต็มที่ ภาวะที่ทำให้หลอดเลือดแข็งได้แก่ ผู้ที่สูบบุหรี่ โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เป็นต้น
·       ระบบประสาทส่วนปลายซึ่งเป็นระบบที่จะรับความรู้สึกที่เกิดจากการสัมผัสทางร่างกาย
·       ระบบไขสันหลังซึ่งเป็นระบบที่จะเชื่อมโยงการรับความรู้สึกจากประสาทส่วนปลายไปยังประสาทส่วนกลาง และถ่ายทอดคำสั่งมายังองคชาติ
·       ระบบประสาทส่วนกลางซึ่งประกอบด้วยสิ่งเร้าทั้งหลาย เช่น การเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น รวมทั้งจิตนาการณ์และประสบการณ์ในอดีต
·       จิตก็เป็นเรื่องสำคัญ
ใครที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้
สาเหตุของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศมักจะมีหลายสาเหตุร่วมกัน หากมีหลายสาเหตุก็จะทำให้มีโอกาศเกิดมากขึ้น ปัจจัยที่เป็นสาเหตุได้แก่
1.     อายุ พบว่าอายุมากก็พบโรคนี้ได้เพิ่มขึ้นโดยพบว่าผู้ที่มีอายุ 40-49,50-59,60-70 ปีจะพบ ED ได้ร้อยละ 20.4,46.3,73.4 ตามลำดับ
2.     สังคมและเศรษฐกิจพบว่าผู้ที่มีรายได้สูง มีความรู้ อาชีพที่ดีจะมีปัญหา ED น้อยกว่าคนที่มีรายได้น้อย
3.     โรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรัง โรคประจำตัวต้องเป็นโรคเรื้อรังที่เป็นมานานพอควรเป็นโรคที่มีผลต่อหลอดเลือดแดง หลอดเลือดดำ กล้ามเนื้อบริเวณอวัยวะเพศสามารถทำให้โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เช่นโรคเบาหวาน โรคไต โรคพิษสุราเรื้อรัง โรคหลอดเลือดแดงแข็ง atherosclerosis โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศในกลุ่มนี้พบได้ร้อยละ 70 โรคที่สำคัญได้แก่
·       โรคหัวใจและหลอดเลือด เพราะจะทำให้มีการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศน้อยลง
·       โรคความดันโลหิตสูง
·       โรคเบาหวานมักจะเกิดหลังจากเป็นเบาหวานแล้วประมาณ 10 ปีซึ่งมีสาเหตุสำคัญคือ เส้นเลือดแข็ง ระบบประสาทอัตโนมัติ
·       โรคต่อมลูกหมากโต
1.     การผ่าตัดและอุบัติเหตุที่มีผลต่อเส้นประสาทที่ไปควบคุมการแข็งตัวขององคชาต เช่นการผ่าตัดในอุ้งเชิงกราน การผ่าตัดต่อมลูกหมาก การได้รับอุบัติเหตุที่อวัยวะเพศ ประสาทไขสันหลัง กระเพาะปัสสาวะ กระดูกเชิงกราน อาจจะทำลายเส้นประสาททำให้เกิดกามตายด้าน การผ่าตัดผ่านทางท่อปัสสาวะ
2.     จากยาที่รับประทาน ยาหลายชนิดอาจจะทำให้ความต้องการทางเพศลดลง บางชนิดอาจจะทำให้เกิดกามตายด้าน
3.     พฤติกรรมการดำรงชีวิตได้แก่
·       การสูบบุหรี่ คนที่สูบบุหรี่จะมีการเกิด ED สูงกว่าคนไม่สูบโดยพบได้ร้อยละ 45 คนปกติพบได้ร้อยละ 35
·       การดื่มสุรา คนที่ดื่มสุราจะมี RD ร้อยละ 54 ซึ่งคนปกติพบได้ร้อยละ 28
·       การออกกำลังกายผู้ที่ออกกำลังจะพบได้น้อยกว่าผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย
1.     ED ที่เกิดจากจิตใจพบได้ประมาณร้อยละ 10-20 ของผู้ป่วยโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ภาวะดังกล่าวอาจจะเกิดจากความเครียด ความวิตกกังวลเกี่ยวกับงาน ครอบครัว ความกลัวความล้มเหลวทางเพศสัมพันธ์ หรือถูกตำหนิจากคู่ครองทำให้หมดความมั่นใจ

อาการของผู้ป่วย
อาการของผู้ป่วยที่มีปัญหาทางเพศมักจะมีอาการดังนี้
o   ไม่สามารถแข็งตัวได้ตลอดการมีเพศสัมพันธ์
o   อวัยวะเพศไม่แข็งตัวเต็มที่
o   ไม่สามารถแข็งตัวเลย
หากคุณมีอาการดังกล่าวนานเกิน 2 เดือนหรืออาการเกิดซ้ำควรปรึกษาแพทย์

สาเหตุของกามตายด้าน
การแข็งตัวของอวัยวะเพศต้องมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
o   โดยเริ่มต้นจากต้องมีความรู้สึกต้องการทางเพศซึ่งเกิดที่สมองได้รับการกระตุ้นซึ่งอาจจะเกิดจากรูป กลิ่น เสียง สัมผัส และจากความคิด
o   ส่งผ่านความรู้สึกต้องการทางเพศนั้นไปยังประสาทไขสันหลังและไปกระตุ้นอวัยวะเพศทำให้เลือดไหลเข้าอวัยวะเพศ
o   หลอดเลือดที่อวัยวะเพศต้องมีการขยายตัวเลือดจึงจะเข้าในอวัยวะเพศได้อย่างเต็มที่
ดังนั้นหากมีปัจจัยมากระทบกลไกทั้งสามก็จะทำให้เกิดการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
สาเหตุของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศแบ่งตามกลไกการแข็งตัว
สาเหตุของ ED แบ่งตามกลไกการแข็งตัวได้เป็น 3 ขั้นตอนได้แก่
1.     ความล้มเหลวในการกระตุ้นให้เกิดการแข็งตัวมักจะเกิดจากจิตใจ สมอง ระบบประสาท และการขาดฮอร์โมนเพศชาย
2.     ความล้มเหลวที่เลือดแดงจะไหลเข้ามาคั่งในอวัยวะเพศ ประเภทใจสู่แต่องคชาติไม่ขยายตัวยาว ใหญ่และแข็งพอมักจะเกิดจากระบบไหลเวียนโลหิตมาเลี้ยงองคชาติไม่พอ
3.     ความล้มเหลวในการกักกันเลือดแดงที่ไหลเข้ามาคั่งในองคชาติแล้วค้างอยู่ได้มากพอและนานพอที่จะทำให้ องคชาตแข็งตัวเต็มที่และนานพอที่จะมีเพศสัมพันธุ์ได้สำเร็จ มักจะเกิดจากผู้สูงอายุมีพังผืดมาแทนหลอดเลือดแดง

สาเหตุของ ED แยกตามระบบต่างๆ
1.     ความผิดปกติของเส้นเลือดแดง เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดสาเหตุสำคัญได้แก่
·       โรคเบาหวาน
·       โรคความดันโลหิตสูง
·       โรคไขมันในเลือดสูง
·       การสูบบุหรี่
·       การฉายแสง
·       คนที่ขี่จักรยานทางไกล ขี่มอเตอร์ไซด์
1.     ความผิดปกติของระบบประสาท แบ่งตามระดับต่างๆได้ดังนี้
·       ระดับสมอง เช่นเนื้องอกสมอง โรคลมชัก อัมพาต Parkinson Alzheimer's disease
·       ระดับไขสันหลัง สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือการได้รับอุบัติเหตุ
·       ระดับเส้นประสาทและปลายประสาท สาเหตุที่พบบ่อยคือโรคเบาหวาน นอกจากนั้นยังพบได้ในผู้ที่ผ่าตัดในช่องท้อง ผ่าตัดต่อมลูกหมาก
1.     ความผิดปกติเกี่ยวกับหลอดเลือดดำ มักจะพบในผู้ที่สูงอายุ โรคเบาหวานเนื่องจากมีการแข็งตัวของหลอดเลือดดำ
2.     ความผิดปกติในระดับฮอร์โมน ผู้ที่มีฮอร์โมนเพศชายน้อยกว่าปกติมักจะมีปัญหาเรื่อง ED โดยจะมีความต้องการทางเพศลดลง แต่จะไม่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
3.     ความผิดปกติเกี่ยวกับเรื่องจิตใจซึ่งแบ่งได้เป็นสองประเภท คือพวกที่มีโรคทางจิตใจอยู่เก่า เช่นโรคซึมเศร้า ผู้ที่เครียด ส่วนประเภทที่สองคือพวกที่มีปัญหาทางเพศซึ่งอาจจะเกิดจากการหลั่งเร็ว หรือแข็งตัวไม่เต็มที่แล้วเกิดความกังวลใจเรื้อรัง
ความรุนแรงของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศแบ่งออกได้ 3 ระดับคือ
·       อาการน้อย คือสามารถมีเพศสัมพันธุ์ได้สำเร็จเกือบทุกครั้ง
·       อาการปานกลาง คือมีเพศสัมพันธุ์ได้สำเร็จประมาณครึ่งหนึ่ง
·       อาการรุนแรง คือมีเพศสัมพันธุ์ไม่สำเร็จ

การวินิจฉัย
o   ประวัติการเจ็บป่วย โรคที่เป็นอยู่ ยาที่ใช้เป็นประจำ ความถี่ของความต้องการทางเพศ ความถี่ของการแข็งตัว ความถี่ของการหลั่ง ข้อมูลเหล่านี้คุณต้องเตรียมไว้สำหรับตอบคำถามแพทย์
o   การตรวจร่างกาย ลองจับอวัยวะเพศว่ามีการแข็งตัวหรือไม่หากไม่มีการแข็งตัวอาจจะหมายถึงว่ามีปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาท มีการร่วงของขนอวัยวะเพศหรือไม่หากมีสาเหตุก็อาจจะเกิดจากต่อมไร้ท่อ
o   การวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการณ์ แพทย์จะเจาะเลือดตรวจการทำงานของตับ น้ำตาล ไต ไขมันผลเลือดทั่วไป สำหรับผู้ที่มีความต้องการทางเพศต่ำอาจจะต้องเจาะหาระดับฮอร์โมน testosterone นอกจากนั้นยังต้องสังเกตการแข็งตัวของอวัยวะเพศระหว่างที่หลับหากสามารถแข็งตัวตอนกลางคืน หรือตอนเช้ามืดแสดงสาเหตุน่าจะเกิดจากจิตใจ

การรักษา
1.     การรักษาเบื้องต้นต้องกำจัดหรือลดปัจจัยเสี่ยงให้น้อยที่สุด คือจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตเช่น รับประทานอาหารที่มีกากอาหาร อาหารที่มีไขมันต่ำ ลดเกลือ งดสุรา งดบุหรี่
2.     Psychotherapy การรักษาทางด้านจิตใจหากปัญหากามตายด้านเกิดจากทางด้านจิตใจแพทย์จะช่วยลดความกังวล
3.     การใช้ยาในการรักษา Drug Therapy มีทั้งยารับประทาน ยาฉีดหรือยาสอด 
o    Sildenafil citrate หรือชื่อในทางการค้าว่า Viagra เป็นยาที่ใช้รักษาอาการกามตายด้านตัวแรกโดยต้องรับประทานก่อนมีเพศสัมพันธ์ 30 นาที-1 ชั่วโมง ควรจะรับประทานยาตอนท้องว่าง ยาจะออกฤทธิ์นาน 4-5 ชั่วโมง จนทำให้บางคนสามารถมีเพศสัมพันธ์ตอนเช้าทั้งที่รับประทานยาตอนก่อนนอน ยานี้จะได้ผลก็ต่อเมื่อผู้ที่ใช้จะต้องมีความต้องการทางเพศ ยานี้จะเพิ่มเลือดให้ไปเลี้ยงอวัยวะเพศมากขึ้นขนาดที่ใช้ 50 มิลิกรัมต่อวันไม่ควรใช้มากกว่า 1 ครั้งต่อวัน สำหรับผู้ที่มีโรคตับ ไตวาย หรืออายุมากกว่า 65 ปีอาจจะเริ่มวันละ 25 มิลิกรัมต่อวัน หากได้ผลไม่ดีและไม่มีโรคแทรกซ้อนจึงเพิ่มขนาดของยา ข้อห้ามใช้ยานี้ได้แก่ผู้ที่เป็นโรคหัวใจได้รับยา nitrate ไม่ควรใช้ยานี้เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำเป็นลมและเกิดอันตราย ส่วนการรับประทานยานี้ร่วมกับยาลดความดันชนิดอื่นก็ไม่ส่งผลเสีย ยาในกลุ่มนี้ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยได้แก่ Levistra
o   ยาในกลุ่ม alpha blocker ได้แก่ yohimbine [Procomil] แต่เดิมเป็นยากระตุ้นความต้องการทางเพศ แต่ปัจจุบันทราบว่ายานี้ออกฤทธิ์ที่สมอง และขยายหลอดเลือดที่ส่วนปลาย รวมทั้งองคชาตทำให้แข็งตัวได้ ขนาดของยาที่ใช้ 18-30 มิลิกรัมให้รับประทานติดต่อกัน 1-3 เดือน แต่ต้องระวังโรคแทรกซ้อน เช่น ความดันโลหิตสูง ใจสั่น ปัสสาวะบ่อย
o   Apomorphine ส่วนใหญ่ใช้ 2-4 มิลิกรัม ออกฤทธิ์ใน 10-25 นาทีใช้อมใต้ลิ้น ผลข้างเคียงของยาต่ำมีเพียงคลื่นไส้อาเจียนเท่านั้น
o   ยาฮอร์โมน testosterone เหมาะสำหรับผู้ที่มีระดับฮอร์โมน testosterone ในเลือดต่ำ
o   การฉีดยาเข้าอวัยวะเพศ ยาที่นิยมใช้คือ papaverine hydrochloride,phentolamine, and alprostadil ยาเหล่านี้จะทำให้หลอดเลือดขยาย ยานี้จะเริ่มออกฤทธิ์หลังจากฉีดไปแล้ว 5-20 นาทีและออกฤทธิ์ได้นาน 1 ชั่วโมง ผลข้างเคียงของยาอาจจะทำให้เกิดอาการที่เรียกว่าโด่ไม่รู้ล้มจะทำให้เกิดอาการปวด เกิดอาการปวดบริเวณที่ฉีด เลือดออก
o   การใส่ยาเข้าทางท่อปัสสาวะจะเริ่มออกฤทธิ์ในเวลา 8-10 นาที และอยู่ได้นาน 30-60 นาทีและต้องใช้ยางรัดไวเพื่อให้อวัยวะเพศแข็งตัวนาน ผลข้างเคียงมีการระคายเคืองต่อท่อปัสสาวะ อัณฑะ อาจจะมีเลือดออกจากท่อปัสสาวะ
1   การใช้เครื่องสุญญากาศ Vacuum Devices โดยการใช้เครื่องสุญญากาศครอบที่อวัยวะเพศ หลังจากนั้นก็สูบอากาศให้ออกจากท่อทำให้เลือดเข้าไปในอวัยวะเพศจนอวัยวะเพศแข็งตัวได้ดีจึงใช้ยางรัด

11.  การผ่าตัด Surgery ซึ่งมีการผ่าตัดได้ 3 วิธี

o   การผ่าตัดใส่ท่อ prostheses เข้าไปในอวัยวะเพศ ท่อนี้จะต่อเข้ากับเครื่องปั้มเพื่อปั้มน้ำเข้าท่อทำให้เกิดการแข็งตัว
o   การผ่าตัดแก้เส้นเลือดแดงอุดเนื่องจากได้รับอุบัติเหตุเหมาะสำหรับคนหนุ่ม
o   การผ่าตัดแก้หลอดเลือดดำไม่นิยมทำ
ในการเลือกวิธีรักษาแพทย์จะพิจารณาจากอายุและโรคที่เป็นอยู่ หากคุณมีโรคอะไรต้องบอกแพทย์ก่อนรักษาทุกครั้งเนื่องจากมีบางภาวะที่อาจจะมีอันตรายหากมีเพศสัมพันธ์เช่น
o   เพิ่งเกิดโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือดสมองในระยะเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา
o   มีการเต้นผิดปกติของหัวใจบางชนิด
o   มีอาการเจ็บหน้าอกเนื่องจากหัวใจขาดเลือดซึ่งยังควบคุมไม่ได้
o   ความดันโลหิตที่ยังควบคุมไม่ได้
o   โรคหัวใจวายที่ยังควบคุมไม่ได้
o   โรคลิ้นหัวใจตีบชนิดรุนแรง
การป้องกัน
แม้ว่าอาจจะเกิดการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายได้เป็นครั้งคราว เราสามารถลดการหย่อนสมรรถภาพทางเพศโดยวิธีดังต่อไปนี้






Promotion