วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2561

อยากผอมหุ่นดี ต้องลดไขมันไม่ใช่ลดน้ำหนัก

อยากผอมหุ่นดี ต้องลดไขมันไม่ใช่ลดน้ำหนัก
ความเชื่อผิดๆ ที่แสนยาวนานของการลดน้ำหนัก คือใช้เข็มของตาชั่งตัวชี้วัด ตัดสินว่าขณะนี้เราผอมหรืออ้วน?
เคยถามตัวเองมั้ย? ว่าแท้จริงแล้วเราต้องการลดน้ำหนัก หรือต้องการให้หุ่นดี เพื่อจะได้ใส่เสื้อสวยๆ ได้? เป้าหมายของเราคืออะไรกันแน่?
ถ้าเรา กำลังเชื่อว่าการลดน้ำหนัก คือการพยายามอดอาหาร กินให้น้อยที่สุดเพื่อที่จะทำให้เข็มของตาชั่งน้อยลง เพื่อคาดหวังว่าตัวเองจะหุ่นดี ขอบอกเลยว่าเป็นความเชื่อที่ผิดโดยสิ้นเชิง
ใช่ครับ ทำแบบนั้นแล้วเข็มบนตาชั่งลดลงแน่นอน แต่ถ้ามาส่องกระจกดูว่า เราอาจผอมลงก็จริง แต่ทำไมยังมีพุง รูปร่างไม่สมส่วนหุ่นไม่ดีเหมือนดารา หรือซูเปอร์โมเดล ทำไมเป็นแบบนั้นได้?

ไขมัน vs กล้ามเนื้อ
เวลาเราอดอาหาร ร่างกายเราจะดึงไขมันและมวลกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงานพร้อมๆ กัน ทำให้พอเราน้ำหนักลด รูปลักษณ์ภายนอกเราจึงดูผอมกะหร่อง อาจจะเคยได้ยินนักมวย นักกีฬาที่ดูหุ่นฟิตปั๋งหลายคนอาจจะน้ำหนักมากกว่าเราด้วยซ้ำ แต่ทำไมเค้าถึงดูดีกว่า?  มาดูข้อเท็จจริงกันว่าทำไม?
รูปข้างล่างนี้แสดงก้อนไขมันและกล้ามเนื้อ 2 kg. เท่าๆ กัน


เห็นมั้ยครับ?
ไขมัน 2 kg. มีขนาดใหญ่มากๆ ใหญ่กว่าด้ามปากกาเสียอีก ยิ่งไขมันสะสมในตัวเรามากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ตัวเราดูบวม และนั่นคือตัวการที่แท้จริงของความอ้วน!

ดังนั้นเคล็ดลับของการหุ่นเฟิร์มดูดี ก็คือการเปลี่ยนก้อนไขมันให้เป็นกล้ามเนื้อ ลองจินตนาการดูว่า ถ้าเราสามารถสลับก้อนไขมันและก้อนกล้ามเนื้อขนาด 2 kg. ที่อยู่พุงของเราได้ พุงเราจะหดเล็กลงขนาดไหน
มาดูภาพตัวอย่างของรูปร่างชาย และหญิงที่มีปริมาณไขมันแตกต่างกัน



ยิ่งเปอร์เซ็นไขมันน้อย รูปร่างของเราก็จะดูดีขึ้น  โดยเปอร์เซ็นต์ไขมันของผู้ชายที่จัดว่าผอมจะอยู่ที่ต่ำกว่า 15 - 18% และ 25 - 28% สำหรับผู้หญิง
ต่อไปถ้าเราพูดถึงการลดน้ำหนัก เราจะหมายถึงการลดปริมาณไขมัน (เปอร์เซ็นต์ไขมัน) และเพิ่มปริมาณมวลกล้ามเนื้อ เข้าใจตรงกันนะครับ?

เพิ่มกล้ามเนื้อลดไขมัน
จะเห็นได้ว่าคีย์หลักในการลดน้ำหนักนั้นก็คือการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และลดปริมาณไขมันให้มากที่สุด ยิ่งเปอร์เซ็นต์ไขมันน้อย เราก็จะดูเฟิร์มมากขึ้น

เมื่อเรามีกล้ามเนื้อมากขึ้น ร่างกายเราต้องใช้พลังงานมากขึ้น  เผาผลาญไขมันมาใช้มากขึ้น โดยการเผาผลาญนี้จะเกิดขึ้นตลอดเวลา แม้เรานอนหลับ ดังนั้นยิ่งเรามีมวลกล้ามเนื้อมาก แคลอรี่ที่ถูกเบิร์นออกก็เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ

จากที่ได้กล่าวไปตอนแรก   ร่างกายเราจะดึงไขมันและมวลกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงานพร้อมๆ กัน เราไม่สามารถไปบอกร่างกายว่า กรุณาดึงเอาไขมันมาใช้เพียงอย่างเดียวนะ  ส่วนกล้ามเนื้อให้เก็บไว้

แล้วเราจะทำอย่างไรล่ะ ที่จะบังคับให้ร่างกายใช้ไขมันเป็นแหล่งพลังงานอย่างเดียว?
เราบังคับร่างกายไม่ได้ก็จริง แต่เราก็สามารถส่งซิกให้ร่างกายได้ ให้ร่างกายเอากล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงานน้อยที่สุด ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
อย่าอดอาหาร ให้ทานแคลอรี่ให้พอเพียงที่ร่างกายต้องการ เช่น ผู้หญิงทานอาหารให้ไม่น้อยกว่า 1200 CAL ต่อวัน หรือผู้ชาย 1500 CAL ต่อวัน

เน้นทานข้าวกล้อง โปรตีน ผักและผลไม้ให้ได้มากที่สุด

ทานโปรตีนให้ได้อย่างน้อย 1.2 - 1.6 g. ต่อน้ำหนักตัว 1 kg. เช่น ถ้าน้ำหนัก 60 kg. ก็ให้ทานโปรตีนประมาณ 72 g. เป็นอย่างน้อย
ให้ทานคาร์โบไอเดรตบ้าง แต่รับประทานแต่น้อย  โดยคาร์โบไอเดรตที่ได้รับควรจะมาจากข้าวกล้อง ธัญพืช เช่น ถั่วต่างๆ
ทานน้ำมันปลา เพื่อให้ได้รับกรดไขมันที่จำเป็น (EFA) อย่างเพียงพอ

เล่นเวท ข้อนี้สำคัญมากๆ เพราะถ้าเราไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อในการทำงานหนักๆ เช่นยกของหนักๆ ร่างกายจะคิดว่าไม่จำเป็นต้องเก็บกล้ามเนื้อไว้  กล้ามเนื้อที่ไม่จำเป็นจึงถูกดึงไปเผาผลาญเป็นพลังงาน

รู้อย่างนี้แล้ว ….  ถ้าให้เลือกระหว่างลดน้ำหนัก หรือลดไขมัน เพื่อนๆ จะเลือกอย่างไหน?

เป็นกำลังใจให้กับคนที่อยากหุ่นดีทุกคนนะครับ

ที่มาข้อมูล – Weight Loss vs Fat Loss
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม  พูดคุยปรึกษาเรื่องสุขภาพ
คุยกับ
#โค้ชเกมส์
092-645-4256
 LINE : kp156
#เพราะหลอดเลือดคือทั้งหมดของชีวิต
#สุขภาพดีคุณสร้างได้
#แชร์ให้คนที่คุณรัก
#รักใครให้แชร์
#แคร์ใครให้แท็ก
#สุขภาพออกแบบได้